สถานการณ์ไซเบอร์

ปัญญาประดิษฐ์

แก้ไขล่าสุดเมื่อ :
ไม่มีไฟล์แนบ

จีนตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางหุ่นยนต์ระดับโลกภายในปี ๒๕๖๘

เว็บไซต์ zdnet.com รายงานเมื่อ ๒๙ ธ.ค.๖๔ ว่า จีนได้เผยแพร่แผน ๕ ปี ในการขับเคลื่อนประเทศไปสู่การเป็นศูนย์กลางหุ่นยนต์ระดับโลกในปี ๒๕๖๘ โดยตั้งเป้าไปที่การยกระดับการผลิตชิ้นส่วนมอเตอร์ควบคุมเครื่องจักรและระบบควบคุมให้มีมาตรฐานเทียบเท่าผู้ผลิตหุ่นยนต์ชั้นนำของโลก

เมื่อ ๒๘ ธ.ค.๖๔ กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน ได้เผยแพร่แผนพัฒนาสู่การเป็นศูนย์กลางหุ่นยนต์ระดับโลกในระยะ ๕ ปี โดยให้มีรายได้จากการอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ระหว่างปี ๒๕๖๔ - ๒๕๖๘ เพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ ๒๐ ก่อนหน้านั้น ระหว่างห้วงปี ๒๕๕๙-๒๕๖๓ อุตสาหกรรมหุ่นยนต์เติบโตเฉลี่ยต่อปีร้อยละ ๑๕ โดยเมื่อปี ๒๕๖๓ มีรายได้จากการดำเนินงาน ๑๐๐,๐๐๐ ล้านหยวน (๑๕,๖๙๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และมีการใช้งานหุ่นยนต์ ๒๖๔ หน่วยต่อประชากร ๑๐,๐๐๐ คน ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ ๒ เท่าของค่าเฉลี่ยทั่วโลก

นายหวาง เหว่ยมิ้ง โฆษกกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน ระบุในวันเดียวกันว่า แผนดังกล่าวกำหนดแนวทางการพัฒนาชิ้นส่วนประกอบหลักของหุ่นยนต์ เช่น ตัวลดความเร็ว ชิ้นส่วนมอเตอร์ควบคุมเครื่องจักร และระบบควบคุม ซึ่งเป็นพื้นฐานของเครื่องจักรอัตโนมัติเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือของส่วนประกอบให้เทียบเท่าผลิตภัณฑ์ขั้นสูงของต่างประเทศ โดยคาดว่าจะมีการใช้งานหุ่นยนต์ขั้นสูงในหลายภาคส่วน เช่น ยานยนต์ การบิน อวกาศ รถไฟ โลจิสติกส์ และเหมืองแร่ 

สำนักงานงานสถิติแห่งชาติของจีนรายงานว่าในห้วง ม.ค.-พ.ย.๖๔ มีการใช้งานหุ่นยนต์ในภาคอุตสาหกรรมของจีน ๓๓๐,๐๐๐ หน่วย ขยายตัวร้อยละ ๔๙ เมื่อเปรียบเทียบกับปี ๒๕๖๓ และจากรายงาน World Robot 2021 ของ International Federation of Robotics ได้รายงานว่าทั่วโลกมีอัตราการใช้งานหุ่นยนต์เพื่อการผลิตเฉลี่ย ๑๒๖ หน่วยต่อพนักงาน ๑๐,๐๐๐ คน และประเทศที่ใช้งานหุ่นยนต์สูงสุด ๓ อันดับแรกได้แก่ เกาหลีใต้ ๙๓๒ หน่วย สิงคโปร์ ๖๐๕ หน่วย และญี่ปุ่น ๓๙๐ หน่วยต่อประชากร ๑๐,๐๐๐ คน ตามลำดับ