นสพ. Khmer Times ฉบับ 17 ธ.ค.67 รายงานว่า รัฐบาลกัมพูชาเปิดตัวแพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับเศรษฐกิจนอกระบบ (informal economy) อย่างเป็นทางการ เมื่อ 16 ธ.ค.67 ซึ่งสมเด็จฯ ฮุน มาแนต นรม.กัมพูชา ระบุว่าแพลตฟอร์มดังกล่าวเป็นหมุดหมายสำคัญในการดำเนินยุทธศาสตร์แห่งชาติเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจนอกระบบ ปี 2566-2571

สนข. VGP ของทางการเวียดนาม รายงานเมื่อ 16 ธ.ค.67 ว่าห้วง ม.ค.-พ.ย.67 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเยือนเวียดนามรวม 15.8 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 40 จากห้วงเดียวกันของเมื่อปี 2566 และคาดว่าในสิ้นปี 2567 จะมีจำนวนทั้งหมด 17 ล้านคน

นรม.เวียดนามมีข้อสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามแผนและยุทธศาสตร์ด้านเซมิคอนดักเตอร์อย่างเคร่งครัด พร้อมเร่งส่งเสริมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ตามหน้าที่และอำนาจของแต่ละหน่วยงาน

จีนสามารถพึ่งพาตนเองด้านพลังงานได้ร้อยละ 80 ในปี 2567 และมีแผนจะพัฒนาระบบจ่ายพลังงานแบบใหม่ในปี 2568

รมว.กต.อิสราเอล มีคำสั่งเมื่อ 15 ธ.ค.67 ปิด สอท.อิสราเอล ณ กรุงดับลิน ไอร์แลนด์ หลังรัฐบาลไอร์แลนด์ประกาศรับรองอธิปไตยของปาเลสไตน์ และประกาศสนับสนุนการยื่นฟ้องอิสราเอลต่อ ICJ ในข้อกล่าวหาว่าฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา

กาตาร์จะเปิดทำการ สอท. ณ กรุงดามัสกัส ซีเรีย ใน 17 ธ.ค.67 หลังกาตาร์ตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับซีเรียตั้งแต่ปี 2554 เพื่อตอบโต้รัฐบาลอดีตประธานาธิบดีบะชาร อัลอะซัด ของซีเรีย ที่ดำเนินนโยบายกดขี่ประชาชน

รัสเซียอพยพเจ้าหน้าที่การทูตบางส่วนที่ประจำการในซีเรียกลับรัสเซีย แต่ยังคงเปิดทำการ สอท. ณ กรุงดามัสกัส ตามปกติ

ประธานาธิบดียูเครนระบุพร้อมช่วยเหลือซีเรียป้องกันวิกฤตการขาดแคลนอาหารผ่านโครงการธัญพืชจากยูเครน และกลไกการจัดหาอาหารที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่

องค์การกลุ่มประเทศอาหรับผู้ส่งออกน้ำมัน (Organization of Arab Petroleum Exporting Countries-OAPEC) ปรับโครงสร้างและเปลี่ยนชื่อเป็นองค์การพลังงานอาหรับ (Arab Energy Organisation-AEO)

สอท.จีน/ฟป. แจ้งเตือนชาวจีนที่อาศัยและท่องเที่ยวอยู่ในฟิลิปปินส์ให้เพิ่มความระมัดระวัง หลังเกิดเหตุการณ์ปล้น จี้ และทำร้ายร่างกายชาวจีนในพื้นที่เพิ่มขึ้น

นย.สหรัฐฯ เริ่มเคลื่อนย้ายกำลังพลออกจาก จ.โอกินาวะ ญี่ปุ่น ไปเกาะกวม เมื่อ 14 ธ.ค.67 ตามที่ญี่ปุ่นและสหรัฐฯ เห็นพ้องเมื่อปี 2548 เพื่อลดผลกระทบต่อชุมชนใน จ.โอกินาวะ

รายงานรายเดือนของคณะกรรมการกิจการจีนแผ่นดินใหญ่ของไต้หวันประเมินว่า จีนจะมีหัวรบนิวเคลียร์พร้อมใช้งาน 1,000 หัวรบ ภายในปี 2573 เพิ่มขึ้นจากที่มีอยู่ 500 หัวรบ ณ พ.ค.66 ถึง 2 เท่า โดยจีนมุ่งเสริมสร้างขีดความสามารถของสามเหล่านิวเคลียร์ (Nuclear Triad) ใน ทอ. ทร. และกองกำลังจรวด

นายอิวายะ ทาเกชิ รมว.กต.ญี่ปุ่น จะเยือนจีนอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกใน 25 ธ.ค.67 เพื่อพบหารือกับนายหวัง อี้ รมว.กต.จีน ในประเด็นความพร้อมของจีนต่อการยกเลิกมาตรการระงับการนำเข้าผลผลิตประมงจากญี่ปุ่น การพัฒนาขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ และการยกระดับความร่วมมือทางทหารระหว่างจีนกับรัสเซีย

รัฐสภาเกาหลีใต้ผ่านญัตติถอดถอนประธานาธิบดี ยุน ซ็อก ย็อล ออกจากตำแหน่ง กรณีการประกาศใช้กฎอัยการศึกเมื่อ 3 ธ.ค.67 ส่งผลให้ประธานาธิบดีต้องระงับการปฏิบัติหน้าที่ทันที และนายฮัน ด็อก-ซู นรม. ปฏิบัติหน้าที่แทนชั่วคราว

นาย Mikhail Bogdanov รมช.กต.รัสเซีย และผู้แทนพิเศษด้านตะวันออกกลางและแอฟริกา ระบุเมื่อ 12 ธ.ค.67 ว่า รัสเซียเริ่มจัดให้มีการปฏิสัมพันธ์กับกับกลุ่มฮัยอะฮ์ ตะห์รีร อัชชาม (Hayat Tahrir al-Sham-HTS) โดยผู้แทน สอท.รัสเซีย เข้าร่วมประชุมกับฝ่ายการเมืองของกลุ่ม HTS ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงดามัสกัส ซีเรีย

ประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ลงนามขยายเวลาการบังคับใช้กฤษฎีกาเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้การคว่ำบาตรพลังงานต่อรัสเซีย จนถึง 30 มิ.ย.68 สาระสำคัญห้ามการจัดหาน้ำมันและผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับน้ำมันของรัสเซีย แก่คู่ค้าที่ใช้การอ้างอิงราคาสูงสุดที่กำหนดโดยกลุ่มประเทศ G7 สหภาพยุโรป และออสเตรเลีย

เว็บไซต์นิตยสาร Business Korea รายงานเมื่อ 13 ธ.ค.67 ว่า นายชเว ซัง-มก รอง นรม. และ รมว.เศรษฐกิจและการคลังของเกาหลีใต้ ได้หารือกับผู้แทนจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำระดับโลก 3 แห่ง ได้แก่ Fitch Ratings, Moody’s และสำนักงาน S&P เพื่อยืนยันว่า ความวุ่นวายทางการเมืองในประเทศส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเพียงในวงจำกัด

เว็บไซต์สถานีโทรทัศน์ Amu TV ของอัฟกานิสถาน รายงานเมื่อ 13 ธ.ค.67 ว่า กระทรวงเสริมคุณธรรมและป้องกันความชั่วร้ายของอัฟกานิสถาน เรียกร้องให้สื่อมวลชนยุติการออกอากาศการแสดงดนตรีที่ขัดต่อหลักคำสอนทางศาสนาอิสลามและวัฒนธรรมดั้งเดิมของอัฟกานิสถาน

นายเซียร์เกย์ ลาฟรอฟ รมว.กต.รัสเซีย ประณามกรณีสหรัฐฯ อนุมัติเงินกู้จำนวน 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่ได้จากการอายัดสินทรัพย์ของรัสเซียให้แก่ยูเครน ว่าไม่ต่างจากการโจรกรรม

ธนาคารโลก (World Bank) คาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของเมียนมา จะหดตัวร้อยละ 1 ซึ่งปรับลดลงจากก่อนหน้านี้เมื่อ มิ.ย.67 ที่คาดการณ์ว่าจะเติบโตร้อยละ 1 เนื่องจากเมียนมาประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างรุนแรง สถานการณ์การสู้รบที่ยืดเยื้อ ปัญหาขาดแคลนสินค้าอุปโภคบริโภคในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ การอพยพของพลเรือน ขณะที่ภาคการเกษตร การผลิต และการบริการหดตัวลงต่อเนื่อง