สนข. เอพี รายงานเมื่อ 1 พ.ค. 68 อ้างแถลงของ พณ.สหรัฐฯ ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (Gross Domestic Product - GDP) ของสหรัฐฯ หดตัวร้อยละ 0.3 สวนทางกับนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 0.2 จากที่ขยายตัวร้อยละ 2.4 เมื่อไตรมาส 4 ของปี 2567 ซึ่งเป็นผลจากการนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้น (ร้อยละ 41) ในห้วงก่อนการประกาศใช้มาตรการภาษีตอบโต้ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ การใช้จ่ายภาครัฐที่ลดลง การใช้จ่ายที่ชะลอตัวลงของผู้บริโภค อย่างไรก็ดี ดัชนีราคาสำหรับการซื้อภายในประเทศ (price index for gross domestic) และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.4 และร้อยละ 3.6 เมื่อเทียบกับห้วงไตรมาส 4 ของปี 2567 ที่ขยายตัวร้อยละ 2.2 และร้อยละ 2.6 ตามลำดับ ทั้งนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ แสดงความเห็นผ่าน Truth social ถึงสถานการณ์เศรษฐกิจว่า เป็นผลกระทบจากการบริหารของประธานาธิบดีโจเฟซ ไบเดน และพร้อมปกป้องการดำเนินนโยบายมาตรการภาษีตอบโต้ว่า จะต้องใช้เวลาก่อนจะเกิดผล กับทั้งเรียกร้องให้ชาวอเมริกันอดทนอีกสักระยะก่อนที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะกลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง จากการที่บริษัทต่าง ๆ ย้ายฐานการผลิตเข้ามายังสหรัฐฯ