สนข.AP รายงานเมื่อ 17 มิ.ย.66 อ้างทัศนะของนายอันโตนิอู กุแตเรซ เลขาธิการองค์การสหประชาติ (UN) ว่า การดำเนินงานของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารโลก ในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ซึ่งทำให้หลายประเทศต้องตกอยู่ในภาวะเป็นหนี้ เลขาธิการ UN ระบุว่ากฎเกณฑ์ของ IMF และธนาคารโลก ไม่เป็นธรรมและเอื้อประโยชน์ประเทศร่ำรวย เห็นได้จากรัฐบาลหลายประเทศ เช่นในแอฟริกาถูกกดดันให้ต้องใช้จ่ายเพื่อการชำระหนี้มากกว่าการดูแลรักษาสุขภาพของประชากร เพื่อแลกกับการรักษาไม่ให้อันดับเครดิตตกต่ำ นอกจากนี้ กลุ่มประเทศ G7 ซึ่งมีประชากรรวมประมาณ 772 ล้านคน ได้รับการจัดสรรเงินจาก IMF ในช่วงเกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 จำนวน 280,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่กลุ่มประเทศพัฒนาน้อยที่สุดซึ่งมีประชากรรวมประมาณ 1,100 ล้านคน ได้รับจัดสรรเพียง 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ เลขาธิการ UN เสนอให้ IMF และธนาคารโลกปฏิรูปองค์กรครั้งใหญ่ เพื่อให้มีผู้แทนจากประเทศกำลังพัฒนาร่วมเป็นคณะกรรมการในทั้งสององค์กร และช่วยเหลือประเทศต่างๆ ปรับโครงสร้างหนี้ จัดหาเงินทุนเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและจัดการกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ