สนข.Reuters รายงานเมื่อ 18 ม.ค.67 ในวันเดียวกันนี้ สภานิติบัญญัติของเวียดนามอนุมัติกฎเกณฑ์ใหม่ที่จะลดสัดส่วนการถือหุ้นสูงสุดที่ นักลงทุนสามารถถือครองในธนาคารภายในประเทศ เพื่อลดความเสี่ยงของความปั่นป่วนในตลาดเงิน โดยผู้ถือหุ้นสถาบัน เช่น การลงทุนหรือกองทุนบำเหน็จบำนาญ จะได้รับอนุญาตให้ถือหุ้นของธนาคารได้ไม่เกินร้อยละ 10 ลดลงจากขีดจำกัดร้อยละ 15 ในปัจจุบัน ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐสภามากกว่าร้อยละ 90 เห็นด้วยกับกฎหมายที่แก้ไขเพิ่มเติมนี้ อย่างไรก็ดี การจำกัดสัดส่วนการลงทุนดังกล่าว อาจทำให้นักลงทุนสนใจร่วมลงทุนในธนาคารน้อยลง ทั้งนี้ การปรับปรุงกฎหมายดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของเวียดนามเปิดเผยผลการสอบสวนคดีทุจริตกรณีของนาง Truong My Lan ประธานของกลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์ Van Thinh Phat Group (VTP) และผู้บริหารธนาคารไซง่อน (Saigon Joint Stock Commercial Bank - SCB) ได้ยักยอกเงิน 1.25 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (4.415 แสนล้านบาท) ด้วยการให้ธนาคาร SCB ปล่อยเงินกู้ให้กับบริษัทที่ตนเองตั้งขึ้น เป็นผลให้ธนาคาร SCB ซึ่งเป็นธนาคารเอกชนที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเวียดนามมีหนี้เสียจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อตลาดทุนและอัตราแลกเปลี่ยนเงินสกุลด่งของเวียดนามอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้มูลค่าความเสียหายที่เกิดจากการยักยอกของนาง Truong My Lan มีมูลค่าประมาณร้อยละ 6 ของ GDP ของเวียดนาม