โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (United Ntions Development Programme-UNDP) เผยแพร่รายงานสถานการณ์ความยากจนและเศรษฐกิจครัวเรือนของเมียนมา เมื่อ 11 เม.ย.67 โดยระบุว่า ภายหลังการรัฐประหารในเมียนมาเมื่อปี 2564 จำนวนประชากรชนชั้นกลางของเมียนมาลดลงมากถึงร้อยละ 50 และประชากร 3 ใน 4 ของประเทศมีรายได้ต่ำใกล้เคียงเส้นความยากจน (Poverty line) และมีประชากรเพียงร้อยละ 25 ที่มีรายได้เฉลี่ยสูงกว่า Poverty line โดยรัฐกะยา รัฐชิน และภาคซะไกง์ เป็นพื้นที่ที่ประชากรมีรายได้ต่อหัวต่ำที่สุด เนื่องจากมีสถานการณ์สู้รบรุนแรงระหว่างกองทัพเมียนมากับกลุ่มต่อต้าน ส่งผลให้ที่อยู่อาศัยและพื้นที่เพาะปลูกเสียหาย รวมทั้งมีผู้พลัดถิ่นในประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งนำไปสู่ภาวะความยากจนมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ UNDP ระบุว่า การแก้ไขปัญหาความยากจนในเมียนมาจำเป็นต้องใช้งบประมาณอย่างน้อยปีละ 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อฟื้นฟูความมั่นคงทางอาหารและการเข้าถึงบริการขั้นพื้นฐาน