นสพ.Taipei Times รายงานเมื่อ 15 ธ.ค.67 ว่า คณะกรรมการกิจการจีนแผ่นดินใหญ่ของไต้หวัน (Mainland Affairs Council-MAC) เผยแพร่รายงานรายเดือนประเมินว่า จีนจะมีหัวรบนิวเคลียร์พร้อมใช้งาน 1,000 หัวรบ ภายในปี 2573 เพิ่มขึ้นจากที่มีอยู่ 500 หัวรบ ณ พ.ค.66 ถึง 2 เท่า โดยจีนมุ่งเสริมสร้างขีดความสามารถของสามเหล่านิวเคลียร์ (Nuclear Triad) ใน ทอ. ทร. และกองกำลังจรวด ปัจจุบันจีนมีขีปนาวุธข้ามทวีป DF-41 ซึ่งเป็นระบบที่ยืดหยุ่นและเชื่อถือได้ และเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ติดตั้งขีปนาวุธ Type 094 ซึ่งจีนสามารถลดเสียงและเพิ่มน้ำหนักบรรทุกได้ ทั้งยังอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบอาวุธขั้นสูงอื่น ๆ ที่สามารถใช้ยิงขีปนาวุธ แสดงถึงความก้าวหน้าที่สำคัญของอาวุธจีนในด้านพิสัยการยิง ขีดความสามารถในการพรางตัวและการโจมตี รวมถึงความมุ่งมั่นของจีนที่จะมีอาวุธนิวเคลียร์ประสิทธิภาพสูงขึ้น ทั้งนี้ สหรัฐฯ เชื่อว่าจีนพยายามเพื่อให้ได้มาซึ่งศักยภาพด้านนิวเคลียร์ที่มากกว่าปริมาณขั้นต่ำที่จำเป็นสำหรับป้องปราม ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารไต้หวันระบุว่า จะส่งผลต่อดุลอำนาจในภูมิภาค และกระทบต่อดุลยภาพทางยุทธศาสตร์ระดับโลก โดยอาจกระตุ้นให้สหรัฐฯ เร่งพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ให้ทันสมัยเพื่อยกระดับการป้องปรามทางยุทธศาสตร์ ขณะที่มหาอำนาจในภูมิภาคอื่นจะเปลี่ยนท่าทีเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อเสริมสร้างพันธมิตรด้านการป้องกันกับประเทศต่าง ๆ