สนข.CNN รายงานเมื่อ 1 ก.พ.68 ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านเศรษฐกิจ พร้อมทั้งลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารปรับขึ้นอัตราภาษีซึ่งครอบคลุมทุกรายการสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดา ที่ร้อยละ 25 (ยกเว้นสินค้ากลุ่มน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากแคนาดาจะปรับขึ้นร้อยละ 10) และจากจีน ที่ร้อยละ 10 เพื่อป้องปรามภัยคุกคามจากปัญหาผู้อพยพบริเวณชายแดน และการค้าสารเสพติด โดยเฉพาะเฟนทานิล ซึ่งคำสั่งดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ใน 4 ก.พ.68 อย่างไรก็ดี มาตรการดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในระยะสั้น แต่จะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในระยะยาว และจะพิจารณากำหนดอัตราภาษีในอัตราสูงขึ้น หากทั้งสามประเทศดำเนินมาตรการตอบโต้ ขณะที่ผู้นำเม็กซิโกและแคนาดาประกาศจะร่วมกันพิจารณาขึ้นอัตราภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ร้อยละ 5-25 ในกลุ่มสินค้าเนื้อหมู ชีส เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม้ เหล็กและอลูมิเนียม พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประชาชนยุติการซื้อสินค้าจากสหรัฐฯ