สนข.รอยเตอร์ส รายงานเมื่อ 2 มี.ค.68 อ้างถ้อยแถลงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผ่านแอปพลิเคชัน Truth Social ในวันเดียวกัน ว่า การจัดตั้งกองทุนสำรองสกุลเงินดิจิทัลเชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ (U.S. Strategic Cryptocurrency Reserve) จะช่วยยกระดับอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซี ที่เผชิญกับปัญหาเรื่องภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือในสมัยรัฐบาลอดีตประธานาธิบดีโจเซฟ ไบเดน โดยประธานาธิบดีทรัมป์ระบุถึงสกุลเงินดิจิทัลที่จะรวมอยู่ในกองทุนสำรองดังกล่าว อาทิ Ripple (XRP), Solana (SOL), Cardano (ADA), Bitcoin (BTC) และ Ethereum (ETH) ส่งผลให้มูลค่าตลาดคริปโทเคอร์เรนซีในภาพรวมปรับเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 10 หรือมากกว่า 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยราคา BTC สกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดของโลก ปรับเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 11 อยู่ที่เหรียญละ 94,164 ดอลลาร์สหรัฐ และราคา ETH สกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่ามากเป็นอันดับ 2 ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 13 อยู่ที่เหรียญละ 2,516 ดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ดี ยังมีความไม่แน่นอนว่าการจัดตั้งกองทุนสำรองดังกล่าวจะต้องผ่านกระบวนการทางนิติบัญญัติโดยรัฐสภาสหรัฐฯ ก่อน หรือสามารถจัดตั้งโดยการซื้อขายผ่านกองทุนเพื่อรักษาเสถียรภาพอัตราแลกเปลี่ยน (Exchange Stabilization Fund-ESF) ของ กค.สหรัฐฯ