สถานการณ์ไซเบอร์

ปัญญาประดิษฐ์

แก้ไขล่าสุดเมื่อ :
ไม่มีไฟล์แนบ

การใช้ปัญญาประดิษฐ์เติบโตอย่างรวดเร็วในธุรกิจสุขภาพในห้วงสถานการณ์ Covid-19

เว็บไซต์ forbes.com รายงานเมื่อ ๒๖ พ.ค. ๖๔ ว่า จากที่เกิดโรคระบาด Covid-19 ในปี ๒๕๖๓ - ๒๕๖๔ บริษัทหลายแห่งดำเนินการธุรกิจโดยใช้ประโยชน์จากความสามารถด้านดิจิทัลเพื่อให้ตอบสนองและให้บริการลูกค้าจากระยะไกลได้  องค์กรภาครัฐและเอกชนด้านสาธารณสุขและวิทยาศาสตร์ชีวภาพ ก็ได้นำระบบดิจิทัลเข้ามาเสริมการทำงานเพื่อรองรับกับความเร่งด่วนในการจัดการและรายงานข้อมูลด้านสุขภาพจำนวนมากและแตกต่างกันจากทั่วโลกอย่างทันท่วงทีและถูกต้อง เพื่อนำมาวิเคราะห์และทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรค Covid-19 ได้แก่ ความเร็วของการแพร่กระจาย อัตราการติดเชื้อ สถิติความเสี่ยง และนำการพัฒนาวัคซีนเพื่อพัฒนาภูมิคุ้มกันหมู่

จากผลการสำรวจความคิดเห็นผู้บริหารในบริษัทด้านการดูแลสุขภาพและชีววิทยาศาสตร์ (Life Sciences) ชั้นนำ เช่น Anthem Health, Bristol-Myers Squibb, Cigna, CVS Health, Eli Lilly, Glaxo Smith Kline, Humana, Merck, Pfizer, Sanofi, United Health และ Cerevel พบว่าบริษัทเหล่านี้ประสบความสำเร็จมากกว่าบริษัทในภาคอุตสาหกรรมอื่นในการบรรลุผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data driven) ในปี ๒๕๖๓ เช่น มีบริษัทที่ให้บริการทางการเงินเพียงร้อยละ ๑๗.๙ ที่บรรลุผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ขณะที่บริษัทด้านการดูแลสุขภาพและวิทยาศาสตร์ชีวภาพรายงานว่าประสบความสำเร็จถึงร้อยละ ๔๐.๙

ผลลัพธ์ของการขับเคลื่อนด้วยข้อมูลนี้มีความเชื่อมโยงระดับการลงทุนในข้อมูล โดยร้อยละ ๕๐ ของบริษัทด้านชีววิทยาศาสตร์รายงานว่ามีการลงทุนในข้อมูลเพิ่มขึ้นเทียบกับ ร้อยละ ๒๒.๔ ในบริษัทที่ให้บริการทางการเงิน นอกจากนี้ ร้อยละ ๖๓.๖ ของบริษัทวิทยาศาสตร์ชีวภาพและบริษัทด้านการดูแลสุขภาพระบุว่าตัวเองเป็นผู้นำด้านข้อมูลและ AI เทียบกับร้อยละ ๔๐.๓ ของบริษัทที่ให้บริการทางการเงิน ด้านการลงทุนกับข้อมูล บริษัทที่ให้บริการทางการเงินร้อยละ ๗๔.๖ รายงานว่าจะมุ่งเน้นการลงทุนกับข้อมูล ในขณะที่บริษัทด้านสุขภาพและชีววิทยาศาสตร์ร้อยละ ๑๐๐ กล่าวว่าจะมุ่งเน้นการลงทุนกับข้อมูล

ตัวอย่างการใช้ประโยชน์ของบริษัทชีววิทยาศาสตร์ในการลงทุนใน Big Data และปัญญาประดิษฐ์ ได้รับการยืนยันจากการลงทุนของยาขนาดใหญ่เป็นเงินหลายพันล้านดอลลาร์ในการดึงบันทึกสุขภาพของผู้ป่วยแบบไม่เปิดเผยตัวตนเพื่อช่วยในการค้นพบยา การลงทุนเหล่านี้ดำเนินการโดยหวังว่าจะขยายกลุ่มตัวอย่างผู้ป่วยซึ่งจะได้รับประโยชน์จากยาที่มีอยู่ในขณะเดียวกันก็ค้นพบยาใหม่ ๆ อาทิ บริษัทไฟเซอร์ (Pfizer) ผู้ผลิตยาเป็นหนึ่งในผู้ที่รวบรวมข้อมูลจากการทดลองควบคุมแบบสุ่มร่วมกับแหล่งข้อมูลเพิ่มเติมจากโลกความเป็นจริง (Real World Evidence) เพื่อใช้ในการเร่งการค้นพบยาใหม่และลดต้นทุนการวิจัย นอกจากนี้ ยังช่วยให้นักวิทยาศาสตร์มีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับการรักษาโรคเฉพาะบุคคลมากขึ้นจากจำนวนข้อมูลที่มากขึ้นและดีขึ้น

โดยสรุปแล้ว การจัดการข้อมูลของบริษัทวิทยาศาสตร์ชีวภาพมีศักยภาพที่จะพลิกโฉมอนาคตของอุตสาหกรรมและการดูแลผู้ป่วย ซึ่งอุตสาหกรรมดังกล่าวได้ดำเนินการมาระยะหนึ่งแล้ว แต่การแพร่ระบาดของ Covid-19 ทั่วโลกเร่งให้เกิดการรับรู้และความเร่งด่วนใหม่ จากการประยุกต์ใช้ข้อมูลที่เกิดขึ้นจริง การรวบรวมและวิเคราะห์แหล่งข้อมูลใหม่ของจีโนมและระบาดวิทยา เวชระเบียน และแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ซึ่งการประยุกต์ใช้ข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์จะช่วยลดเวลาและการลงทุนที่จำเป็นสำหรับการรักษาโรคหายาก ใช้งานการแพทย์แม่นยำ กระบวนการที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพตามลำดับขนาด” สำหรับ บริษัท และผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูลที่ดำเนินงานในเวทีด้านการดูแลสุขภาพและวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิตปีต่อ ๆ ไปจะต้องก้าวไปอย่างรวดเร็วและมีแนวโน้มที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลง